วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

L'Epiphanie le 6 janvier


                ทุกวันที่ 6 ของเดือนมกราคม คนฝรั่งเศสจะชอบทานขนมพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว แต่ไม่ใช่ว่าจะทานขนมอะไรก็ได้นะคะ เพราะในวันนี้เป็นวันของ Galette des Rois หรือขนมแห่งกษัตริย์ ถ้าใครไปเที่ยงฝรั่งเศสในช่วงเดือนมกราคม ก็จะเห็นขนมชนิดนี้วางขายอยู่ในร้านขายขนมปังทุกร้านเลย หรือบางทีเวลาเดินสวนกันกับเด็กที่เพิ่งกลับจากโรงเรียนก็จะเห็นเด็กบางคนบางคนสวมมงกุฎกลับมาด้วย วันนี้นานาวีดีโอจะเล่าประวัติความเป็นมาของวันที่ใครๆก็สามารถเป็นกษัตริย์หรือราชินีได้ และก็เรียนคำศัพท์ภาษาฝรั่งเศสที่เกี่ยววัฒนธรรมนี้ไปด้วยนะคะ
Galette des Rois เป็นขนมที่มีขายในเทศกาล L’epiphanie ซึ่งมีต้นกำเหนิดมาตั้งแต่สมัยโรมัน โดยจะมีขึ้นในทุกวันที่ 6 ของเดือนมกราคม หรือ 12 วันหลังจากที่พระเยซูประสูติเพื่อเป็นรำลึกถึงเหตุการณ์ที่ 3 นักแสวงบุญเมไจ (Mages) หรือที่คนสมัยนั้นนับถือกันว่าเป็นกษัตริย์แห่งกรุงบาบิลอน ทั้งสามเป็นผู้ที่ปราดเปรื่องเรื่องดวงดาว เมื่อพวกเขามองเห็นดวงดาวแห่งเบธเลเฮมก็เกิดความศรัทธาและรู้ทันทีว่าผู้มีบุญหรือกษัตริย์องค์ใหม่ของชาวยิวได้จุติลงมาเกิด พวกเขาจึงเริ่มออกเดินทางตามหา โดยนักบุญทั้งสามได้นำของที่ประเมินค่ามิได้ไปมอบเป็นของขวัญแด่พระผู้เป็นเจ้าของของพวกเขาด้วย ดังที่เราอาจจะพบได้บ่อยๆในภาพวาดของกษัตริย์ทั้งสามพระองค์กำลังโค้งคำนับพระเยซูในขณะที่ยังเป็นทารก
Galette des Rois หรือ ขนมแห่งกษัตริย์ เป็นขนมที่ทำมาจากแป้งพัฟหลังจากอบแล้วจะเป็นแผ่นบางๆกรอบหลายแผ่นซ้อนกันภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า La pâte feuilletée คล้ายๆกับครัวซองค์แต่กรอบกว่าและรสชาตินุ่มนวล ไส้ข้างในเป็นอัลมอลล์กวน หรือที่คนฝรั่งเศสเรียกกันว่า La frangipane รสชาติอร่อยนุ่มลิ้น ถ้าไส้เป็นแอปเปิ้ลหรือผลไม้อบแห้งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆเรียกว่า La brioche (des fruits confits) บางทีก็มีไส้ช็อคโกแลตด้วยนะคะ ก่อนรับประทานแนะนำให้เอาไปอุ่นในเตาอบก่อนจะอร่อยมากเลย ข้างในขนมจะมีความลับซ่อนอยู่ ความลับที่ว่าก็คือตอนทำขนมเค้าจะใส่ตุ๊กตาเล็กๆไว้ในไส้ โดยตุ๊กตาที่ว่านี้ในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า Une fève ซึ่งอาจจะทำมาจากเซรามิคหรือพลาสติก เคยได้ยินว่ามีแบบที่ทำมาจากทองคำด้วย และก็มีเด็กๆหลายคนที่ชอบสะสม La fève โดยขนมชนิดนี้จะขายมาพร้อมกับมงกุฏกระดาษสีทอง (Une couronne) แต่ปีนี้ Boulanger หรือร้านขายขนมปังใกล้บ้านเค๊าทำเป็นสีชมพูแปร๋นเลย ที่ซื้อมาวันนี้เป็นขนาดสำหรับรับประทานกัน 4 คน ราคาอยู่ที่ 15.95 ยูโรคิดเป็นเงินไทยก็ราคาประมาณ 630 บาท
กฏหรือวัฒนธรรมในการกินขนมแห่งกษัตริย์
จะให้เด็กที่อายุน้อยที่สุดในบ้านไปหลบอยู่ใต้โต๊ะ จากนั้นพ่อหรืแม่ก็จะหั่นขนมออกเป็นชิ้นเท่าๆกันตามจำนวนสมาชิกในบ้าน แล้วจะให้เด็กที่ลงแอบอยู่ใต้โต๊ะเป็นคนตัดสินใจว่าขนมแต่ละชิ้นจะเป็นของใคร เช่นชิ้นแรกให้พ่อ ชิ้นที่สองให้พี่ พอทุกคนได้ขนมแล้วเด็กก็จะออกมาจากที่ซ่อนและทุกคนลงมือทานขนมพร้อมๆกัน ถ้าขนมของใครมี La fève อยู่ข้างใน คนนั้นก็จะได้สวมมงกุฎและเป็นกษัตริย์ และแน่นอนกษัตริย์ก็ย่อมเลือกควีนของตัวเองได้บางร้านก็อาจจะให้มงกุฏมา 2 อัน ในบ้างครั้งก็อาจจะมี La fève ใส่มาในขนม 2 ชิ้นโดยชิ้นที่สองนี้มักจะทำมาจากถั่ว ถ้าใครได้ชิ้นไปก็ต้องเป็นคนออกไปซื้อขนมกษัตริย์มาทานกันอีกเป็นกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว ที่ทั้งสนุกและอร่อย ทีนี้เรามาเรียนภาษาฝรั่งเศสกันนะคะ
คำที่มักจะถามกันบ่อยๆก็คือ
Qui sera le roi? ใครจะได้เป็นกษัตริย์
Qui sera la reine? ใครจะได้เป็นราชินี
Celle-ci c’est pour qui? ขนมชิ้นนี้ให้ใคร (คำถามที่ถามเด็กที่ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะ)
J’ai trouvé la fève! ฉันพบ fève แล้ว!
J’ai la fève! ฉันได้ fève!
Tirer les rois. หรือ Tirer au sort. หมายถึงการกินขนมแห่งกษัตริย์แล้วก็กลายเป็นกษัตริย์
น่าสนุกดีนะคะ แต่อย่าขี้โกงแอบดู la fève ก่อนทานแบบที่เด็กๆชอบทำกัน ในเมืองไทยโรงแรมที่มีอาหารฝรั่งเศสก็มีขนมชนิดนี้ขายในช่วงเดือนมกราคมด้วยนะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น